จังหวัดกาญจนบุรีกำหนดมาตรการควบคุมตลาด ตลาดน้ำ ปละตลาดนัด เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันกรแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
13 มกราคม 2564ประเภท : ข่าวประชาสัมพันธ์
ข้อมูลรูปที่เกี่ยวข้อง
จังหวัดกาญจนบุรีกำหนดมาตรการควบคุมตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ออกคำสั่งเรื่อง มาตรการควบคุมตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
ด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะพบการแพร่ระบาดไปยังผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมากเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี และมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงกำหนดมาตรการควบคุมตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด ดังต่อไปนี้
1. ให้เว้นระยะห่างของแผง ระยะนั่งหรือยืน ระยะห่างในการเลือกสินค้า และการชำระราคา ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร
2. ให้ผู้ประกอบการ และผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเสมอ
3. ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
4. ให้มีการควบคุมทางเข้า - ออก และมีมาตรการคัดกรองอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการตามขีดความสามารถ
5. ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
6. ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัดหรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน
7. ไม่อนุญาตการให้บริการเครื่องเล่นสำหรับเด็ก
8. เพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชัน ติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ได้ตามความเหมาะสมและความจำเป็น หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูล
หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการ จะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563